เจาะ 5 ประเด็นก่อนเกม แมนยู เยือน อาร์เซน่อล
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีเกมสุดสำคัญในการเยือน อาร์เซน่อล ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม วันเสาร์ที่ 30 มกราคมนี้ ซึ่งถือเป็นเกมที่มีความหมายอย่างยิ่งสำหรับ “ปีศาจแดง” เพราะหากพวกเขาไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ อาจจะส่งผลกระทบระยะยาวในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก
1.ครบรอบ 1 ปีการเข้ามากอบกู้แมนฯยูไนเต็ด
“เร้ด เดวิลส์” กลายเป็นทีมที่มีเกมรุกดุดัน เมื่อ บรูโน่ ลงสนาม และมีส่วนทั้งยิงประตูและแอสซิสต์มากมายจนทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ในช่วงต้นซีซั่น 2019/2020 ทุกๆ คนมองว่าไม่มีลุ้นแม้กระทั่งพื้นที่ไปเล่นยูฟ่า ยูโรปา ลีก แต่สุดท้ายพวกเขาโชว์ฟอร์มสุดยอดจนคว้าท็อปโฟร์ชนิดหนักปากกาเซียนเลยทีเดียว
หนึ่งในกุญแจสำคัญที่ทำให้ทีมฟอร์มสุดยอดก็คือ จอมทัพทีมชาติโปรตุเกส ซึ่งลงเล่นเกมทุกเกมในช่วงที่ผ่านมา โดยผลงานของเขายังคงยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง และช่วยให้ต้นสังกัดก้าวขึ้นมามีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้
นับตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน บรูโน่ ซัดให้แมนฯ ยูฯ ไปแล้ว 28 ประตูจากทุกรายการ พร้อมทั้งแอสซิสต์ 17 ครั้ง นั่นหมายความว่า เพลย์เมกเกอร์เลือดฝอยทองมีส่วนเกี่ยวข้องกับประตูของ “ผีแดง” ถึง 45 ลูกเลยทีเดียว ซึ่งเหนือกว่านักเตะในพรีเมียร์ลีกทุกคนในช่วงเวลานี้
อย่างไรก็ตาม บรูโน่ ไม่มีประตูหรือแอสซิสต์แม้แต่ครั้งเดียว ในการลงเล่นเกมลีก 4 นัดหลังสุด ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่สุดของเจ้าตัว นับตั้งแต่ย้ายจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน มาค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อเดือนมกราคม ปีก่อน
ดังนั้นเกมเยือน อาร์เซน่อล แน่นอนว่า บรูโน่ คงอยากจะให้การฉลองครบรอบ 1 ปีที่ย้ายมาเป็นสมาชิกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สวยหรูที่สุด นั่นก็คือโชว์ฟอร์มโหด พร้อมนำต้นสังกัดบุกมาเก็บ 3 คะแนนที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
2.ผลงานนอกบ้านยังสุดอดน่าเกรงขาม
ก่อนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้ผลการแข่งขันที่สุดช็อกในการรับมือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พวกเขามีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมมากๆ นั่นก็คือไม่แพ้ใครเลย 13 เกมติดต่อกันในลีก แถมยังไร้พ่ายในฐานะทีมเยือนในฤดูกาลนี้ด้วย
สำหรับผลงานนอกบ้านของ แมนฯ ยูฯ ในซีซั่นนี้ต้องบอกว่าเพอร์เฟกต์มากๆ 10 เกมที่ผ่านมาพวกเขาเสมอ 2 แมตช์เท่านั้น ในเกมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล นอกนั้นลูกทีมของกุนซือโอเล่ กุนนาร์ โซลชา เก็บชัยชนะเรียบวุธ
ขณะที่ อาร์เซน่อล ผลงานในลีกก็ดีวันดีคืนนับตั้งแต่ช่วงปลายปีมาจนถึงตอนนี้ มิเกล อาร์เตต้า นำ “ปืนใหญ่” ชนะ 6 เสมอ 1 ในพรีเมียร์ลีก แต่ผลงานในบ้าน 5 เกมหลังสุดพวกเขาชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1 เกม ก็ถือว่าพอใช้ได้เลยทีเดียว ส่วนในการลงเล่นทุกรายการ 8 นัดหลังสุด เก็บชัยไปถึง 6 เกมเสมอ 1 และแพ้ 1 เท่านั้น
สำหรับสถิติในการพบกันเองของทั้งสองทีม ตลอด 233 แมตช์ที่ผ่านมา “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้เหนือกว่าเมื่อชนะไปถึง 97 เกม ส่วน “ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ชนะ 84 แมตช์ที่เหลือเป็นเสมอกัน 52 เกม
3.ระวัง ซาก้า เอาไว้ให้ดีๆ
หนึ่งในผู้เล่นที่ต้องบอกว่าอันตรายสุดๆ ในเวลานี้ของอาร์เซน่อล คงหนีไม่พ้น บูกาโย่ ซาก้า โดยดาวรุ่งรายนี้ระเบิดฟอร์มสุดยอดช่วยให้ “เดอะ กันเนอร์ส” กลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างดุดัน และมีส่วนในการทำประตูของทีมหลายต่อหลายครั้ง
ขณะที่นักเตะใหม่แกะกล่องอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด เพลย์เมกเกอร์ชั้นดีชาวนอร์เวย์ ที่เพิ่งจะคว้าตัวมาร่วมทีมในช่วงตลาดพ่อค้าแข้งหน้าหนาว อาจจะมีโอกาสได้ลงสนามในแมตช์สำคัญนี้ แต่น่าจะเป็นตัวสำรอง
ส่วนอีกหนึ่งแข้งที่อันตรายไม่แพ้กันนั่นก็คือ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้ากัปตันทีม “ไอ้ปืนใหญ่” ที่ไม่ได้ลงสนาม 2 เกมหลังสุดเนื่องจากต้องไปดูแลแม่ที่ป่วย ทำประตูได้ 4 จาก 5 เกมหลังสุดที่ดวลกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฉะนั้นหากเขาพร้อมลงเล่นในเกมนี้ ขอบอกว่าแนวรับทีมเยือนระวังตัวเอาไว้ให้ดีๆ
4. ลุ้น ไบยี่ กลับมาคุมเกมรับร่วมกับ แม็กไกวร์
เกมรับคือปัญหาใหญ่ที่ โซลชา ยังแก้ไม่ตก ไม่ใช่แค่ในเกมที่พวกเขาแพ้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด คาบ้านเมื่อช่วงกลางสัปดาห์นี้ แต่ยังมีอีกหลายแมตช์ที่แนวรับของ “ปีศาจแดง” ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจมากนัก
ในช่วงที่ เอริก ไบยี่ ฟิตสมบูรณ์ โซลชา เลือกให้เขาเล่นร่วมกับ แม็กไกวร์ และผลงานก็ออกมาดีเยี่ยม แต่ด้วยปัญหาสภาพร่างกายของนักเตะที่ไม่ค่อยฟิตสมบูรณ์มากนัก ส่งผลให้ แมนฯ ยูฯ ต้องลุ้นแบบนัดต่อนัดว่าเขาจะฟิตสมบูรณ์พร้อมช่วยทีมหรือไม่
สำหรับเกมล่าสุดที่รับมือ “ดาบคู่” ไบยี่ ก็มีปัญหาบาดเจ็บจนพลาดลงสนามในแมตช์ดังกล่าว และนั่นก็ทำให้ โซลชา จำใจต้องใช้งาน อั๊กเซล ตวนเซเบ้ คู่กับ แม็กไกวร์ ผลสรุปก็คือทีมเสียประตูแบบไม่น่าเสียในแมตช์ที่โดน “เดอะ เบลด” กระซวกคาบ้าน
5.รักษาโอกาสในการลุ้นแชมป์ลีก
ก่อนลงสนามในเกมนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะดวล เชฟยู เป็นคู่ก่อนที่ แมนฯ ยูนหเต็ด ปะทะกับ อาร์เซน่อล แน่นอนว่าเกมนี้หากพวกเขาไม่สามารถเก็บ 3 คะแนนเต็ม ย่อส่งผลกระทบต่อการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกในรอบ 8 ปี
ตอนนี้ “ปีศาจแดง” รั้งอันดับ 2 มี 40 คะแนนตามหลังทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพียงแค่ 1 แต้มเท่านั้น ด้วยเหตุผล โซลชา จึงต้องกำชับลูกทีมให้เล่นด้วยความรัดกุม และเฉียบคมเพื่อโอกาสคว้าชัยชนะในแมตช์นี้ให้ได้
หาก แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้เพียงแค่เสมอ หรือหากเลวร้ายก็คือพ่ายแพ้ งานนี้อันดับ 2 ของทีมก็ระส่ำระส่ายเช่นกัน เพราะทั้ง เลสเตอร์ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล มีโอกาสที่จะโกยแต้ม และเขี่ยสโมสรเจ้าของแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี 20 สมัย ต้องเจอกับความกดดันในตารางคะแนน
เจาะ 5 ประเด็นก่อนเกม แมนยู เยือน อาร์เซน่อล