บาร์เซโลนาแม่นโทษดับโซเซียดาด (1-1) 3-2 UFAGOOD
ทัพอาซูลกรานา ดวลจุดโทษเอาชนะเรอัล โซเซียดาด 3-2 หลังเสมอ 1-1 ผ่านเข้าชิงซูเปร์โกปาได้สำเร็จ
ฟุตบอล ซูเปร์โกปา เด เอสปัญญา 2020/21 รอบรองชนะเลิศทางฝั่ง เรอัล โซเซียดาด จัดทัพในระบบ 4-3-3 แนวรุกจัดชุดแกร่งลงสนามครบครันทั้ง ปอร์ตู, อเล็กซานเดอร์ อิซัค และ มิเกล โอยาร์ซาบาล กัปตันทีม
ทางฝั่งบาร์เซโลนา โรนัลด์ คูมัน พัก ลิโอเนล เมสซี เกมนี้ขยับ เปดรี้ ลงมาเชื่อมแดนกลางร่วมกับ เซร์คิโอ บุสเกสต์ และ แฟรงกี้ เดอ ยอง แนวรุก อุสมาน เดมเบเล, อองตวน กรีซมันน์ และ มาร์ติน เบรธเวต
โซเซียดาดได้ลุ้นนาที 16 จากจังหวะที่ เซร์คิโอ บุสเกสต์ พลาดเสียบอลกลางสนามก่อนที่ มิเกล โอยาซาบัล จี้หาเขตโทษแล้วไหลให้ อเล็กซานเดอร์ อิซัค หลุดไปจิ้มด้วยขวาติดเซฟ สเตเก้น
บาร์ซาได้ประตูขึ้นนำนาที 40 จากจังหวะที่ มาร์ติน เบรธเวต ไหลให้ อองตวน กรีซมันน์ ได้บอลหลุดไปในกรอบเขตโทษก่อนเปิดเข้ากลางให้ แฟรงกี้ เดอ ยอง ลอยตัวโขกจ่อ ๆ ไม่พลาด บาร์ซานำ 1-0
บาร์ซาเสียจุดโทษนาที 50 จากจังหวะที่ มิเกล โอยาร์ซาบาล เปิดบอลมาโดนแขนของ แฟรงกี้ เดอ ยอง ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ และเป็น โอยาร์ซาบาล สังหารไม่พลาด เรอัล โซเซียดาด ตีเสมอ 1-1
บาร์ซาพลาดประตูนาที 61 จากจังหวะที่ แฟรงกี้ เดอ ยอง ลากบอลสวนกลับจี้มาถึงหน้ากรอบเขตโทษก่อนไหลออกไปให้ อุสมาน เดมเบเล ล็อคตัดเข้ามาหน้าประตูแล้วกดด้วยซ้าย บอลกินไซด์โป้งเลี้ยวออกเสาไปนิดเดียวเท่านั้น
จบ 90 นาทีไม่มีการทำประตูเพิ่ม ต้องต่อเวลาพิเศษ 30 นาที
ช่วงต่อเวลานาที 117 โซเซียดาดเกือบได้ประตูชัยจากลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ อัดนาน ยานาไซด์ ปั่นฟรีคิกด้วยซ้ายบอลพุ่งชนเสาอย่างน่าเสียดาย จบเกม 120 นาทียังไม่มีประตูเพิ่มต้องดวลจุดโทษตัดสิน โดยเป็น บาร์เซโลนา ดวลจุดโทษเอาชนะไปได้ 3-2 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศซูเปร์โกปา เด เอสปัญญาไปรอพบผู้ชนะระหว่าง แอตเลติโก้ มาดริด และ แอธเลติก บิลเบา ที่จะลงสนามวันพรุ่งนี้
เรอัล โซเซียดาด : โฆน เบาติสต้า (ไม่เข้า), มิเกล โอยาร์ซาบาล (ไม่เข้า), วิลเลียน โชเซ (ไม่เข้า), มิเกล เมริโน (เข้า), อัดนาน ยานูไซจ์ (เข้า),
บาร์เซโลนา : แฟรงกี้ เดอ ยอง (ไม่เข้า), อุสมาน เดมเบเล (เข้า), มิราเล็ม ปานิช (เข้า), อองตวน กรีซมันน์ (ไม่เข้า), ริกี้ ปุช (เข้า)
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เรอัล โซเซียดาด (4-2-3-1) : อเล็กซ์ เรมิโร; อันโดนี โกโรซาบาล, โรแบ็ง เลอ นอร์กม็องด์, อิกอร์ ซูเบลเดีย, นาโช มอนเรอัล; อันเดร์ เกบารา, มิเกล เมริโน, โฆน กูริดี้; ปอร์ตู, อเล็กซานเดอร์ อิซัค, มิเกล โอยาร์ซาบาล
ตัวสำรอง : กาอิซก้า อาเยซา, โฆเซบา ซัลดัว, โมดิโบ ซานญ็อง, มาร์ติน ซูบิเมนดี้, วิลเลียน โชเซ, อัดนาน ยานาไซ, อันเดร์ บาร์เรเน็ตเซีย, โฆน เบาติสต้า, ไอเอน มูนญอซ
บาร์เซโลนา (4-3-3) : มาร์ค-อังเดร แทร์ สเตเก้น; ออสการ์ มินกวยซา, โรนัลด์ อาเราโฆ, เกลม็องต์ ล็องเลต์, ฆอร์ดี้ อัลบา; เปดรี้, เซร์คิโอ บุสเกสต์, แฟรงกี้ เดอ ยอง; อุสมาน เดมเบเล, อองตวน กรีซมันน์, มาร์ติน เบรธเวต
ตัวสำรอง : ทรินเกา, แซร์จินโญ เดสต์, การ์เลส อเลญา, มิราเลม ปานิช, อินากี้ เปญา, เนโต้, ริการ์ด ปุช, ซามูเอล อุมติตี้, จูเนียร์ ฟีร์โป, อีไลซ์ โมริบา