เจาะ5ประเด็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปะทะ เบิร์นลี่ย์ 12/01/2021

เจาะ5ประเด็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปะทะ เบิร์นลี่ย์ 12/01/2021

 

 

เจาะ5ประเด็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปะทะ เบิร์นลี่ย์ 12/01/2021

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีภารกิจสำคัญในการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก  ปะทะ กับ เบิร์นลี่ย์ ที่สนามเทิร์ฟ มัวร์ วันอังคาร ที่ 12 มกราคมนี้ ซึ่งจัดว่าเป็นแมตช์สำคัญ เพราะหากพวกเขาชนะ นั่นหมายถึงตำแหน่ง จ่าฝูง จะอยู่ในมือของพวกเขา ทันที

 

รายชื่อ 11 ตัวจริง แมนยูฯ ที่คาดว่าจะลงสนามในเกมนี้

ดาบิด เด เคอา (GK) – อารอน วาน-บิสซากา, อักเซล ตวนเซเบ, แฮร์รี แม็คไกวร์, อเล็กซ์ เตลเลส – สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด – เมสัน กรีนวูด, บรูโน เฟอร์นันเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด, อองโตนี มาร์เชียล

 

ในเกมนี้ โอเล กุนนาร์ โซลชา ต้องเน้นเป็นพิเศษ เพราะนี่จัดว่าเป็นจุดเปลี่ยนของฤดูกาลอย่างแท้จริง เพราะหากทีมรักษาความคงเส้นคงวาเอาไว้ได้นับตั้งแต่นี้ พวกเขามีโอกาสอย่างยิ่ง ที่จะได้สัมผัสกับโทรฟี่ที่คุ้นเคย ซึ่งได้รับจับมานานับตั้งแต่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นำทีมคว้าแชมป์ครั้งสุดท้ายในฤดูกาล 2012/13

    ยิ่งไปกว่านั้นในแมตช์ต่อไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีคิวทำศึก “เร้ด วอร์” ปะทะ ลิเวอร์พูล ที่สนามแอนฟิลด์ ซึ่งครั้งนี้อาจจะเป็นการบุกถิ่นแดนของคู่อริในฐานะจ่าฝูงลีกก็เป็นได้

1. เก็บ ป็อกบา แข่งกับ ลิเวอร์พูล

 เกม เอฟเอ คัพ ที่ชนะ “แตนอาละวาด”อย่าง วัตฟอร์ด 1-0 โอเล กุนนาร์ โซลชา ไม่ได้จับ ปอล ป็อกบา ลงสนามเนื่องจากนักเตะนั้นมีปัญหาการบาดเจ็บ และจำเป็นต้องฟิตร่างกายของเขา เพื่อให้พร้อมสำหรับเกมสำคัญ 2 แมตช์ที่จะมาถึงนี้  

    อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนในเกมเยือน เบิร์นลี่ย์, ป็อกบา อาจจะยังมีสภาพร่างกายไม่ฟิตสมบูรณ์ และนั่นคงทำให้ “น้าลูกอม” ไม่อยากเสี่ยงฝืนส่งนักเตะลงสนามบอล เพราะมันจะส่งผลเสียต่อทีมและตัวของ ป็อกบา เองด้วย 

อย่าลืมว่าเกมหลังจากเกมที่ เทิร์ฟ มัวร์ พวกเขาต้องทำศึกใหญ่ ไปเยือนคู่อริ ลิเวอร์พูล ที่สนามแอนฟิลด์ แม้ว่าเกมกับ เบิร์นลี่ย์ จะมีความสำคัญ เพราะอาจจะทำให้พวกเขาได้ขึ้นไปบนบัลลังค์จ่าฝูง และออกไปทำศึก “แดงเดือด” ในฐานะทีมอันดับ 1 ของตารางคะแนน 

    กระนั้นเพื่อความไม่ประมาท โอเล กุนนาร์ โซลชา อาจจะต้องพัก ป็อกบา อีกเกม เพื่อให้มั่นใจว่านักเตะ จะมีร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์ ในการไปเยือนคู่อริ แต่ถ้า กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส ฟิตเต็มร้อยแน่นอนว่าเขาจะได้ประสานงานกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ในเกมวันอังคารนี้ 

 

2. แฮร์รี่ แม็กไกวร์ โดนคาดโทษจากใบเหลือง 

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ค่อนข้างจะเป็นกังวลเอามาก นั่นก็คือ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เพราะเซนเตอร์แบ็ก กัปตันทีม ดันมีใบเหลือง คาดโทษเอาไว้แล้ว 4 ใบ และหากเกมนี้เขาดันเล่นไม่ระมัดระวังอาจจะส่งผลต่อการอดแข่งกับคู่อริ ลิเวอร์พูล ทันที

    ตามกฎแล้วผู้เล่นคนไหนที่ได้รับใบเหลืองครบ 5 ใบ จากการเล่นเกมลีกภายใน 19 แมตช์แรก จะต้องถูกแบน 1 เกมโดยอัตโนมัติ และถูกแบน 2 แมตช์หลังครบ 10 ใบ (หลังจากผ่านไป 32 เกม)  และ 15 ใบจะโดน 3 นัด

สำหรับตอนนี้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์  ได้รับใบเหลืองไปแล้วถึง 4 ใบ จากการลงสนาม 16 เกม ในฤดูกาลนี้ ฉะนั้นในเกมที่พบ เบิร์นลี่ย์ มีความเป็นไปได้ที่ โอเล กุนนาร์ โซลชา ต้องเน้นย้ำเป็นพิเศษกับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ให้เล่นอย่างรอบคอบ, ละเอียด ไม่เข้าพรวดพราด เพราะหากโดนใบเหลือง จะทำให้เขาถูกแบนทันที 1 เกม 

   หากโดนแบน 1 แมตช์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ไม่ได้เสียหายเยอะเท่าไหร่ เพราะพวกเขายังพอจะมีเซนเตอร์แบ็กชั้นดีอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็น เอริก ไบยี่ (ลุ้นฟิตหลังบาดเจ็บจากการปะทะกับ ดีน เฮนเดอร์สัน) หรือ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ แต่ถ้าต้องถูกห้ามเล่นในเกมกับ “ลิเวอร์พูล” ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างหนักใจจริง ๆ 

 

3. จิตใจที่แข็งแกร่ง หลังผิดหวังกับการตกรอบตัดเชือก 4 ครั้งติดต่อกัน

ต้องยอมรับเลยว่า สภาพจิตใจของนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดนี้แข็งแกร่งเอามาก ๆ เลย ส่วนหนึ่งนั้นมาจากการปลุกเร้าของผู้จัดการทีม โอเล กุนนาร์ โซลชา ที่สามารถกระตุ้นลูกทีม ให้กลับมามีสติได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่พวกเขาต้องพ่ายแพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ตกรอบรองชนะเลิศ ศึกคาราบาว คัพ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

    “ปีศาจแดง” โดน “เรือใบสีฟ้า” เขี่ยตกรอบนี้ในรายการเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว และไม่ใช่แค่นั่น เพราะนี้คือครั้งที่ 4 ที่พวกเขาต้องเจ็บช้ำกับการไม่ได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ เพราะก่อนหน้านี้ก็ร่วงตกรอบตัดเชือกเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก และ เอฟเอ คัพ เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามทัพ “ปีศาจแดง” (ชุดสำรอง) ทำผลงานได้ดีพอสมควรในเกมชนะ วัตฟอร์ด  1-0  แต่สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าจิตใจของพวกเขานั้นแข็งแกร่ง และพร้อมที่จะมองไปข้างหน้า เพื่อความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่ากำลังรออยู่ในอนาคต

    เกมกับ เบิร์นลี่ย์ จะเป็นอีก 1 บททดสอบที่ยิ่งใหญ่ ที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าพลพรรค “เร้ด เดวิลส์” มีจิตใจที่ห้าวหาญ และพร้อมลืมความผิดหวัง เพื่อกลับมาสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า และถ้าพวกเขาทำได้ ความมั่นใจยิ่งเพิ่มขึ้นแน่นอน

 

4. เอดินสัน คาวานี่กลับมามีชื่ออยู่กับทีมอีกครั้ง

สาวก “เร้ด อาร์มี่” คงยิ้มหน้าบานที่จะได้เห็น เอดินสัน คาวานี่ กลับมามีชื่ออยู่ในทีมอีกครั้ง หลังจากที่ตอนนี้นักเตะพ้นจากบทลงโทษแบน 3 เกมเรียบร้อยแล้ว และนั่นจะทำให้ทีม มีตัวเลือกในเกมรุกที่น่ากลัวเพิ่มขึ้น

    แน่นอนว่า เอดินสัน คาวานี่ คงไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนี้ เพราะ โอเล กุนนาร์ โซลชา ยังคงเชื่อใจ เกมรุกของทีมที่สำคัญ มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กำลังทำผลงานได้อย่างเข้าขากันอยู่ โดยมี บรูโน่ แฟร์นันด์ส ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมเกมรุก

ส่วน เอดินสัน คาวานี่ ยังคงเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” และผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ คงคาดหวังที่จะใช้ประสบการณ์ และศักยภาพของเขาเพื่อช่วยสร้างความแตกต่างให้กับทีม หากถึงจุดที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแนวทางการเล่น 

    อย่าลืมว่า “เอล มาทาดอร์” เคยแผลงฤทธิ์มาแล้วไม่ว่าจะในฐานะตัวจริงหรือตัวสำรองอย่างเช่นในเกมกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่เขาลงเป็นตัวสำรอง และพลิกสถานการณ์ด้วยการซัด 2 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ช่วยให้ทีมเก็บ 3 คะแนนได้อย่างน่าเหลือเชื่อ 

    ฉะนั้นเมื่อถึงยามคับขัน เอดินสัน คาวานี่ สามารถที่จะเป็นฮีโร่ช่วยทีมได้เสมอ 

 

5. สิ้นสุด 40 เดือนแห่งการรอคอย เยือนในฐานะจ่าฝูงลีก

ช่วงต้นฤดูกาลนี้คงไม่มีใครเชื่อฝีมือผู้จัดการทีม โอเล กุนนาร์ โซลชา ว่าจะนำ แมนเซสเตอร์ ยูไนเต็ด ลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก แต่ตอนนี้ทุกคนเชื่อในความสามารถของเขาที่สามารถสร้าง “ปีศาจแดง” ที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเลย จนตอนนี้กลายเป็นทีมที่น่ากลัวสุด ๆ 

    การไล่เก็บชัยชนะไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนธันวาคม ทำให้ตอนนี้พวกเขามีคะแนนเทียบเท่ากับ ลิเวอร์พูล แล้ว และที่ “หงส์แดง” ยังคงได้ยืนอยู่บนตำแหน่งจ่าฝูง ก็เพราะบุญเก่าเนื่องจากมีประตูได้เสียเหนือกว่า “ปีศาจแดง” เท่านั้น

ดังนั้นในเกมเยือนที่พบกับ เบิร์นลี่ย์ จึงเป็นหนึ่งในแมตช์สำคัญสำหรับ แมนเซสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างมาก เพราะเพียงแค่เสมอ หรือถ้าจะให้ดีเก็บชัยชนะไปเลย จะทำให้พวกเขามีคะแนนแซงหน้าแชมป์เก่าขึ้นไปอยู่บนหัวตารางลีกทันที

    นั่นหมายความว่าในเกม “แดงเดือด” ปะทะกับ ลิเวอร์พูล ช่วงสุดสัปดาห์นี้ที่สนามแอนฟิลด์ พวกเขาจะเดินทางไปเยือนในฐานะจ่าฝูงลีกซึ่งเป็นอันดับที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้สัมผัสมานานถึง 40 เดือน 

 

เจาะ5ประเด็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปะทะ เบิร์นลี่ย์ 12/01/2021
แทงบอลออนไลน์!!
สมัครสมาชิกคลิ๊ก!!