รายชื่อนักเตะ การเซ็นสัญญาที่ดีที่สุด ในพรีเมียร์ลีก ช่วงเดือนมกราคม
ตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 ของเดือนมกราคม อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของหลาย ๆ สโมสร เพราะหากพวกเขาสายตาเฉียบคมในการเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ อาจจะช่วยพลิกสถานการณ์ที่เลวร้ายให้กลายเป็นสุดยอดแบบที่หลาย ๆ คนไม่คาดคิด
สำหรับฝ่ายที่โดนซื้อตัวไปและการต้องทุ่มเงินมากเป็นพิเศษของสโมสรที่ต้องการเสริมทัพ อย่างไรก็ดีเราได้เห็นดีลที่สร้างผลกระทบในแง่บวกต่อ พรีเมียร์ลีก ไม่น้อยเลยในตลาดนี้ ซึ่งบางดีลเองก็เรียกได้ว่าเหนือความคาดหมายพอตัว สำหรับบทความนี้เราจะขอหยิบยกมาสัก 5 คนที่แจ้งเกิดได้และกลายเป็นสตาร์ของทีมจากการย้ายตัวในช่วงตลาดรอบที่ 2
1. บรูโน่ แฟร์นันด์ส (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
ต้องก่อนบอกว่า บรูโน่ แฟร์นันด์ส ประสบความสำเร็จอย่างมาในเรื่องผลงานที่สร้างเอาไว้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบ 12 เดือน นับตั้งแต่ที่เขาย้ายภูมิลำเนาออกจากบ้านเกิดในโปรตุเกส มาเล่นที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
จอมทัพชาวโปรตุกีส ย้ายจาก สปอร์ติ้้ง ลิสบอน มาสวมเครื่องแบบ “ปีศาจแดง” ในช่วงปลายเดือนมกราคมของปีที่แล้ว ด้วยค่าตัวเบื้องต้นประมาณ 50 ล้านปอนด์ (ราว 1,900 ล้านบาท) โดยต้องยอมรับว่า บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้ตอบแทนโดยการทำผลงานที่ดีเยี่ยมให้กับเงินที่สโมสรเสียไปจริง ๆ
บรูโน่ แฟร์นันด์ส เริ่มต้นผลงานระดับมาสเตอร์พีซกับอาชีพที่ ยูไนเต็ด โดยช่วยให้ต้นสังกัดคว้าตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลที่ผ่านมา พร้อมทั้งยิงลูกหนังไปเบา ๆ 8 ประตู กับ 7 แอสซิสต์จากการลงสนามเกมพรีเมียร์ลีก 14 แมตช์เท่านั้นได้
ดาวเตะในวัย 26 ปี ยังคงสร้างผลงานดีมีคุณภาพในฤดูกาล 2020/2021 ด้วยการเจะลูกบอลเข้าตาข่ายของคู่แข่งไปแล้ว 11 ประตูกับ 7 แอสซิสต์ จากการเล่น 16 เกมลีก ดังนั้นต้องยอมรับว่า บรูโน่ แฟร์นันด์ส นั้นคือตัวเต็งสำหรับเกมรุก “เร้ด เดวิลส์”
เพลย์เมกเกอร์เลือดฝอยทอง มักจะมีสายตาที่เฉียบคมเหมือนกับเหยี่ยวในการมองหาพื้นที่ว่างในเขตโทษ เพื่อที่จะส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีมหลุดเข้าไปตุงตาข่าย หรือลากบอลเข้าไปด้วยตัวเองก็ได้ นอกจากนี้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยังมีอิสระในการช่วยเกมรุกของทีม และคอยป้อนบอลให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ได้ยิงประตู
ถ้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ แน่นอนว่า บรูโน่ แฟร์นันด์ส คือ กุญแจสำคัญสำหรับความสำเร็จ ที่พวกเขาต้องการมานานหลายปี
2.ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง (อาร์เซน่อล)
ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงนับตั้งแต่ที่ย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาเล่นกับ อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว 55 ล้านปอนด์ (ราว 2,090 ล้านบาท) ต้นปี 2018 และกลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของเหล่าสาวก “เดอะ กันเนอร์ส”
ดาวเตะชาวกาบอง สร้างชื่อให้กับตัวเองในเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีตั้งแต่เกมแรกด้วยการตะบันลูกบอลเข้าตาข่าย “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน จากนั้นก็ซัดประตูเบ็ดเสร็จจำนวน 10 ลูก กับ 4แอสซิสต์จากการเล่น 13 เกมในซีซั่น 2017/2018
ในปี 2019 ปิแอร์ เอเมอริคโอบาเมยอง ได้ทำฟอร์มด้วยการคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุด หรือ “รองเท้าทองคำ” (โกลเด้น บูท) หลังจากได้ทำประตูไป 22 ประตู กับ 5 แอสซิสต์จากการเล่น 36 เกม ที่สำคัญนอกจากจะเล่นเป็นหน้าเป้าชั้นยอดได้แล้ว ยังสามารถขยับไปเล่นเกมรุกได้ดีเช่นกัน
ส่วนเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ปิแอร์ เอเมอริคโอบาเมยอง ซัดไป 22 ประตู ในเกมลีก แต่เป็นรอง เจมี่ วาร์ดี้ เจ้าของ “โกลเด้น บูท” เพียงแค่ประตูเดียวเท่านั้น สำหรับในซีซั่นนี้ กัปตันทีมอาร์เซน่อล ฟอร์มในช่วงแรกไม่ค่อยเป็นที่พอใจสักเท่าไหร่
จะว่าไปแล้ว ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ก็มีอะไรที่เหมือนกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ ตำนาน “ปืนใหญ่” ที่ได้ทำการยิงประตูเป็นว่าเล่น และยังสามารถเล่นตำแหน่งอื่น ๆ ในแผงเกมรุก เช่นเดียวกับปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ที่เล่นได้หลากหลาย ที่สำคัญ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของ อาร์เซน่อล นับตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่กับทีมแล้ว
3. หลุยส์ ซัวเรซ (ลิเวอร์พูล)
ลิเวอร์พูล ใจปล้ำยินดีจ่ายเงินจำนวน 23 ล้านปอนด์ (ราว 874 ล้านบาท) ให้กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม หลังจากที่ยอมปล่อย หลุยส์ ซัวเรซ ย้ายมาเล่นกับ “หงส์แดง” ในเดือนมกราคมปี 2011 และจากนั้นเขาก็กลายเป็นนักเตะกองหน้าที่เก่งที่สุดของ “เดอะ เร้ดส์” และของโลกด้วย
นักเตะชาวอุรุกวัย สวมบทจอมโหดถล่มประตูด้วยการซัดไป 69 ลูก กับ 39 แอสซิสต์ จากการเล่น 110 เกมพรีเมียร์ลีกให้กับ ลิเวอร์พูล และแน่นอนว่าเขาคือหนึ่งในนักเตะที่สาวก “เดอะ ค็อป” นั้นภูมิใจเป็นอย่างมากจากความทุ่มเทที่เขามีให้กับทีม
“หลุยส์ ซัวเรซ” มีโอกาสได้โชว์ฝีเท้าที่สุดยอด จนได้เป็นสถิติตลอดกาล ซึ่งเกิดขึ้นในซีซั่น 2013/2014 ซึ่งเป็นฤดูกาลสุดท้ายภายใต้เครื่องแบบ “หงส์แดง” โดยเขาซัดไป 31 ประตูกับ 17 แอสซิสต์ ในการเล่นเกมลีก 33 แมตช์ พร้อมกับคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุด และนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีก
ที่สำคัญ หลุยส์ ซัวเรซ ยังช่วยให้ ลิเวอร์พูล มีโอกาสลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ในปี 2014 แต่ก็น่าเสียดายที่พวกเขาไปไม่ถึงในซีซั่นนั้น ขณะเดียวกันเส้นทางของลิเวอร์พูล กับหลุยส์ ซัวเรซ ก็มาถึงทางตัน ต้องยอมปล่อยนักเตะให้กับ บาร์เซโลน่า ในฤดูกาลต่อมา
ถึงแม้ หลุยส์ ซัวเรซ จะย้ายทีมไปแล้ว แต่ตำนานของเขากับ “หงส์แดง” ในฐานะหนึ่งในกองหน้าที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลของสโมสร ก็ยังคงอยู่ตลอดไป
4. เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (ลิเวอร์พูล)
ลิเวอร์พูล ได้ประกาศดีลช็อคโลก ด้วยการคว้าตัว เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ มาจาก เซาแธมป์ตัน ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 75 ล้านปอนด์ ซึ่งจัดว่าเป็นกองหลังที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก ในขณะนั้น บรรดากูรูลูกหนัง ต่างวิจารณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า เป็นการซื้อตัวที่สิ้นคิดเอามาก ๆ ของ ลิเวอร์พูล แต่แล้วเวลาผ่านไปได้ไม่ถึงสองปี เสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้นก็เงียบสนิท เมื่อเฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ได้ทำผลงานได้อย่างสุดยอด ด้วยการพาทีม “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล ผงาดคว้าถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก,ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ และ แชมป์สโมสรโลก พร้อมด้วยคว้ารางวัล นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ(พีเอฟเอ) และ รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของยูฟ่า ถือเป็นอีกดีลที่สร้างความตื้นตัน และสุดยอดเอามาก ๆในตลาดซื้อขายช่วงเดือนมกราคม
5. เนมานย่า วิดิช (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
การย้ายทีมของ เนมานย่า วิดิช ต้องเสียระยะเวลาไปกว่าครึ่งปี เนื่องจากติดใบอนุญาตทำงานโดยวันที่ 5 มกราคม 2006 จึงได้ย้ายร่วมทีมแบบสมบูรณ์ โดยในฤดูกาล 2006-07 “เซอร์บิเนเตอร์” วิดิช ได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ โดยเล่นจับคู่กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ และได้กลายเป็นคู่เซ็นเตอร์แบ็ก ที่ว่ากันว่าแข็งแกร่งที่สุดในยุโรปในขณะนั้น ฤดูกาลนั้นจบลงด้วยการที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก วิดิช มีจุดเด่นที่การเล่นลูกกลางอากาศได้ดี ทำประตูได้บ่อย เขาพาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 5 สมัย ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก 1 สมัย ถือเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยม ของตลาดนักเตะในช่วงหนาว
รายชื่อนักเตะ การเซ็นสัญญาที่ดีที่สุด ในพรีเมียร์ลีก ช่วงเดือนมกราคม
สนใจแทงบอลออนไลน์คลิก !!
สมัครสมาชิกคลิ๊ก!!